หลายคนเชื่อว่า “ต้อกระจก” เป็นโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ต้อกระจกสามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกช่วงวัย แม้จะพบได้มากในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปก็ตาม โรคนี้ไม่ได้เกิดจากความชราเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหลายปัจจัยเสี่ยงอื่นที่สามารถเร่งให้เลนส์ตาขุ่นมัวก่อนวัยอันควร
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า “ต้อกระจกพบได้ในวัยไหนบ้าง” และกลุ่มอายุใดที่ควรให้ความระวังเป็นพิเศษ
ต้อกระจกคืออะไร?
ต้อกระจก (Cataract) คือ ภาวะที่เลนส์ตาเกิดความขุ่นมัว ซึ่งปกติเลนส์ตาจะใสและทำหน้าที่รวมแสงเพื่อการมองเห็น เมื่อเลนส์ขุ่นจะทำให้แสงผ่านได้ไม่ดี ผู้ป่วยจะมองเห็นพร่ามัว เหมือนมีหมอกบางบังตา
--------------------------------------------------------
โรคต้อกระจกพบได้ในวัยไหน?
วัยทารกและเด็ก (0–12 ปี)
แม้จะพบได้น้อย แต่ต้อกระจกสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิด เรียกว่า ต้อกระจกแต่กำเนิด (Congenital Cataract) ซึ่งอาจเกิดจาก:
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม
- การติดเชื้อในครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน
- ภาวะแทรกซ้อนจากโรคแม่ระหว่างตั้งครรภ์
หากตรวจพบช้า อาจส่งผลต่อพัฒนาการการมองเห็นของเด็กอย่างถาวร จึงควรตรวจตาในทารกแรกเกิดหากมีความเสี่ยง
--------------------------------------------------------
วัยรุ่นและวัยเรียน (13–25 ปี)
ในกลุ่มนี้พบได้น้อยมาก แต่ไม่เป็นศูนย์ โดยเฉพาะในกรณี:
- ได้รับอุบัติเหตุกระทบกระเทือนที่ตา (trauma)
- ใช้ยาสเตียรอยด์ต่อเนื่อง
- มีโรคทางพันธุกรรมบางอย่าง เช่น โรคเบต้าธาลัสซีเมีย
--------------------------------------------------------
วัยทำงาน (26–50 ปี)
เป็นวัยที่เริ่มมีปัจจัยเสี่ยงสะสม โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมหรือเงื่อนไขต่อไปนี้:
- ทำงานกลางแดด หรือเจอแสง UV ต่อเนื่อง (เช่น ช่างก่อสร้าง เกษตรกร)
- สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
- ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 หรือ 2
- ผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์ เช่น ยาพ่น ยาทา ยารับประทาน
แม้จะยังไม่แสดงอาการ แต่เลนส์ตาอาจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง จึงแนะนำให้เริ่ม ตรวจสุขภาพตาทุก 1–2 ปี
--------------------------------------------------------
ผู้สูงอายุ (มากกว่า 50 ปี)
กลุ่มที่พบโรคต้อกระจกมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะ:
- อายุเป็นปัจจัยเสื่อมของเลนส์ตาตามธรรมชาติ
- อาการเริ่มแสดงชัด เช่น มองเห็นพร่ามัว, เห็นแสงกระจาย, แพ้แสง
ข้อมูลจากกรมการแพทย์ ระบุว่า มากกว่า 80% ของผู้สูงอายุในไทยมีภาวะต้อกระจกในระดับใดระดับหนึ่ง

ปัจจัยเสริมที่ทำให้ต้อกระจกเกิดก่อนวัย
ไม่ใช่แค่อายุ แต่ยังมี “ตัวเร่ง” ที่ทำให้เกิดต้อกระจกเร็วขึ้นในวัยที่ไม่ควรเป็น เช่น:
- เบาหวาน – น้ำตาลในเลือดสูงทำลายเลนส์ตา
- รังสี UV – แสงแดดกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชันในเลนส์ตา
- สูบบุหรี่ – เพิ่มสารอนุมูลอิสระที่เร่งความเสื่อม
- แอลกอฮอล์ – ส่งผลต่อเส้นเลือดเล็กในตา
- ยาสเตียรอยด์ – ทั้งแบบกิน พ่น หยอด
- กรรมพันธุ์ – โดยเฉพาะคนในครอบครัวมีประวัติเป็นต้อกระจกตั้งแต่อายุยังน้อย
--------------------------------------------------------
คำแนะนำตามช่วงอายุ
ทารก – เด็ก : ตรวจตาตั้งแต่แรกเกิดโดยกุมารแพทย์
วัยรุ่น – วัยเรียน : หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุทางตา / ควบคุมโรคเรื้อรัง
วัยทำงาน : ใส่แว่นกันแดด, พักสายตา, เลิกบุหรี่
ผู้สูงอายุ : ตรวจตาเป็นประจำทุกปี, พบแพทย์เมื่อเริ่มมีอาการ
--------------------------------------------------------
แม้ต้อกระจกจะเป็นโรคที่พบได้มากในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกวัยจากหลากหลายสาเหตุ ทั้งพันธุกรรม อุบัติเหตุ หรือพฤติกรรมเสี่ยง การเข้าใจว่า “ต้อกระจกไม่ได้จำกัดแค่อายุ” จะช่วยให้เราหมั่นดูแลสุขภาพตาตั้งแต่วันนี้ และตรวจพบโรคได้ทันเวลาก่อนสายตาจะเสื่อมถาวร







